‘บังโม’ กับเส้นทางที่ใกล้สิ้นสุดกับลิเวอร์พูล
‘บังโม’ หรือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สุดยอดแห่งปีกจอมแกร่งแห่งหงส์แดงลิเวอร์พูล เขาคนนี้มาพร้อมกับความยิ่งใหญ่และการช่วยให้ยอดทีม The kop สามารถที่จะตามล่าฝันให้เป็นจริงได้สำเร็จงดงามเป็นอย่างยิ่ง กับการคว้า แชมป์พรีเมียร์ลีก ครั้งแรกในรอบ 30 ปีกันเลยทีเดียว ซึ่งถ้าหากจะถามถึงดาวยิงที่มีพละกำลังและความแข็งแกร่งที่สูงอยู่ในตัวเองแบบสุดๆ แล้วละก็จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเขาคนนี้เท่านั้น ซึ่งเราจะพาทุกท่านมาเจาะข้อมูลทางด้านประวัติของเขากันดีกว่าว่ามีทีเด็ดอะไรกันบ้างที่ซ่อนอยู่ภายในและเขาคือใครกันแน่
สำหรับชื่อเต็มของเขานั่นก็คือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ฆอลี เขาคนนี้นั้นเกิดเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 1992 ที่แนกริกประเทศอียิปต์ โดยจนถึงตอนนี้นั้นมีอายุเพียงแค่ 28 ปีเท่านั้น โดยมีสัญชาติอียิปต์เล่นในตำแหน่งที่ถนัดนั้นก็คือกองหน้าและปีกและมีความสูงอยู่ที่ 175 ซ.ม.ซึ่งเขาคนนี้นับว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ไม่ธรรมดาและหลายคนต้องการจะคว้าตัวเป็นร่วมทีมเป็นอย่างมาก
เส้นทางลูกหนังของ บังโม
สำหรับเมื่อวัยเด็กเด็กชาย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เขาคนนี้ก็ได้เริ่มต้นเล่นฟุตบอลจากการหัดเตะบอลกับท้องถิ่นในบ้านเกิดก่อนที่ในปี 2010 จะได้ย้ายไปเป็นนักเตะระดับเยาวชนของทีม เอล โมเดรุน สโมสรลูกหนังที่มีระยะทางห่างจากบ้านเขาเป็นอย่างมาก แต่ทว่านั่นก็ไม่ใช่ปัญหาของยอดนักเตะผู้มีใจรักในกีฬาประเภทนี้แต่อย่างใด ซึ่งตัวเขาเองได้พัฒนาฝีเท้าจนสามารถขึ้นมาเล่นในระดับเยาวชนจนติดตัวสำรองและดีดตัวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จ โดยใน 2 ฤดูกาลเมื่อเขาเล่นให้กับที่นี่ก็สามารถที่จะยิงประตูไปได้ถึง 11 ประตูจากการลงสนาม 38 นัดจนฝีเท้าไปเข้ากับสายตาที่คมกริบของยอดแมวมองบาเซิลทีมลูกหนังชื่อดังของลีกสวิตเซอร์แลนด์
จากฝีเท้าที่มีสเต็ปอันยอดเยี่ยมในปี 2012 สำหรับยอดทีมบาเซิ่ลจึงได้จัดการดึงตัวของ Mohamed salah ให้เข้ามาร่วมทีม ซึ่งต้องข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากทวีปแอฟริกากันเลยทีเดียวมาเริ่มต้นในทวีปยุโรปกับต้นสังกัดใหม่ ซึ่งต้องมาเจอสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ กับการฝึกซ้อมที่ไม่คุ้นเคยในตอนนั้นเขาปรับตัวได้ยากเป็นอย่างมาก ซึ่งในต่อมาครั้งแรกที่ย้ายมาอยู่ในบาเซิ่ลก็ยังไม่สามารถที่จะปรับปรุงเทคนิคการเล่นให้เข้ากับรูปแบบการเล่นของทีมจนต้องไปเริ่มต้นเล่นจากทีมสำรอง แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะเขาเป็นคนมุ่งมั่นมีความพยายามก็สามารถยกระดับการเล่นของตัวเองขึ้นมาเล่นกับชุดใหญ่ได้สำเร็จ แต่ทั้งนี้ก็ยังอยู่ในฐานะตัวสำรองเหมือนเคยนั่นเอง
‘บังโม’ จากตัวสำรองกับการลงสนามจริงคนสำคัญ
Mohamed salah ในสังกัดสโมสรใหม่นี้ได้ใช้เวลานานพอสมควร แต่เมื่อได้ลงสนามในแมตช์แรกกับเกมที่ บาเซิ่ล ได้เอาชนะธูน ไปได้ 3 ต่อ 1 ในวันที่ 12 สิงหาคม 2012 หลังจากนั้นเขาก็ได้เล่นเป็นตัวจริงสลับกับตัวสำรองอย่างต่อเนื่อง และทำผลงานได้ค่อนข้างยอดเยี่ยม ต่อมาทำให้ลีลาและลูกเล่นของเขานั้นไปเข้าตาของแมวมองบลูเชลซีอย่างช่วยไม่ได้
การย้ายทีมอีกครั้งของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์
หลังจากที่เกิดการซุ่มมองดูฟอร์มอยู่นานในปี 2014 เชลซี นั้นก็ได้ทำการยื่นข้อเสนอขอซื้อตัวของ Mohamed salah มาร่วมทีมด้วยค่าตัวสูงถึง 11 ล้านปอนด์ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นนักเตะอียิปต์คนแรกในถิ่น สแตมฟอร์ด บริด อีกด้วย ซึ่งการงานของเขาครั้งนั้นจะเป็นการเซ็นสัญญา 5 ปีครึ่งและสวมเสื้อหมายเลข 15 ให้กับทีม ด้วยกันมาครั้งนี้เชลซีหวังเป็นอย่างยิ่งว่าตัวของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะสามารถสร้างความยอดเยี่ยมและผลงานทีเด็ดให้กับทีมแต่มีเรื่องราวมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เมื่อแผงกองกลาง ทัพสิงห์บลู ในชุดนั้นแข็งแกร่งและยอดเยี่ยมเป็นอย่างมากจนทำให้ตัวเองไม่สามารถเบียดลงเล่นในตัวจริงของทีมได้แม้แต่น้อย ซึ่งหลังจากการค้าแข้งในซีซั่นแรกเจ้าตัวได้ลงสนามเพียง 13 นัด จึงทำให้เขาขอย้ายทีมเพื่อจะหาโอกาสลงสนามโดยโอกาสที่เปิดออกให้เขาย้ายไปร่วมทีมกับ ฟิออเรนติน่า ทีมลูกหนังชื่อดังในศึกกัลโช่เซเรียอา
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับการลงสนามอย่างดุดันกับ ฟิออเรนติน่า
เมื่อได้ย้ายทีมสมใจ Mohamed salah ก็ยังสามารถโชว์สเต็ปสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมโดยจากการค้าแข้งที่นี่ได้เพียงครึ่งซีซั่นก็ต้องย้ายทีมอีกครั้ง เมื่อเจ้าตัวต้องการย้ายไปร่วมกับโรม่า หมาป่าแห่งกรุงโรม ซึ่งเขาก็สามารถทำได้อย่างสำเร็จ ซึ่งเมื่อย้ายมาก็สามารถระเบิดฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรงยิ่งขึ้นไปอีกกับการยิงไปถึง 15 ประตูและ 7 assist ในการลงสนาม 42
ต่อมาวันที่ 1 กรกฎาคม 2017 ตัวของ Mohamed salah ก็ได้ทำการย้ายมาอยู่ร่วมทีมลิเวอร์พูลอย่างเป็นทางการด้วยสถิติที่สูงเป็นประวัติการณ์ของสโมสรนั่นก็คือ 42 ล้านปอนด์ ซึ่งเขาย้ายกลับมาเล่นให้กับหงส์แดงก็เพื่อมาพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่เคยล้มเหลวให้กับการเล่นที่เชลซี ซึ่งตัวเขาคิดว่าตัวเขามีดีมากกว่าที่จะเล่นในจุดสูงสุดใน ศึกพรีเมียร์ลีก ได้อย่างไม่ยากเย็น และเขาก็ทำได้สำเร็จจริงๆ
ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับ ลิเวอร์พูล
กลางเดือนมิถุนายน 2020 ในศึกพรีเมียร์ลีกที่กลับมาทราบแจ้งกันอีกครั้งหลังจากการกลับมาใหม่ของนักเตะซาร่า และพลพรรคหงส์แดงก็ได้พบว่ามีความแข็งแกร่งแบบสุดขีด จนทำให้ liverpool ผงาดขึ้นคว้าแชมป์ได้สำเร็จและเป็นแชมป์ครั้งแรกในรอบ 30 ปีอีกด้วย ซึ่งในครั้งนี้ตัวของ Mohamed salah ก็มีส่วนช่วยเป็นอย่างมากในการทำให้คว้ารางวัลใหญ่และถ้วยที่หลายคนหมายปองมาได้อย่างสำเร็จ